วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2552

แอ่วพะเยา ตอนสุดท้าย!!!

วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2552
เป็นวันสุดท้ายของการแอ่วพะเยาในครั้งนี้ หลังจากที่ได้กราบไหว้และร่ำลา
ครอบครัวแนน ก็ได้ไปนมัสการพระเจ้าองค์หลวงที่วัดศรีโคมคำ...






















พระเจ้าตนหลวง(พระเจ้าองค์หลวง)
พระพุทธรูปศิลปเชียงแสนองค์ใหญ่ที่สุดในล้านนา
ข้อมูลจาก http://www.thai-tour.com/

ก่อนอื่นนั้นผมต้องขอบคุณเฮีย(เพชร) เพราะถ้าไม่มีเฮียผมก็คงไม่ได้ไป
ขอขอบคุณซ้อ(แนน) เพราะถ้าไม่ใช่ซ้อผมก็คงไม่ได้เห็น
ขอบคุณพ่อแม่และครอบครัวของซ้อทุกคน ในการต้อนรับและเลี้ยงดูปูเสื่อเป็นอย่างดี
และขอบคุณทุกๆท่านที่ผมไม่ได้เอ่ยนาม... ขอบคุณครับ!!!

...นับจากวันสุดท้ายที่ได้ไปเวลาก็ผ่านเลยมา 2 เดือน กับอีกหลายวัน ขณะที่ผมกำลังจะเขียนอะไรส่งท้ายนี้ หัวใจผมยังเต้นแรง ในห้วงคิดคำนึงของความรู้สึกยังปลื้มปิติและซาบซึ้งต่อเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น ที่มันได้แปรเปลี่ยนเป็นความทรงจำที่มีคุณค่าทางจิตใจอย่างยิ่งในการดำเนินชีวิตต่อไป อาจจะเรียกไม่ได้ว่าเป็นการเปลี่ยนชีวิต แต่มันเป็นการขยายกรอบความคิดในการใช้ชีวิตที่สำคัญของผม ไม่รู้สิผมมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนของนุกนิกตั้งแต่วันแรกที่ผมไปถึง...

เขาถามผมว่า "ที่นี่เป็นไง(กรุงเทพฯ) เด็กบ้านนอกๆอย่างผมไม่ค่อยรู้อะไร จริงๆผมก็อยากไปนะ แต่ก็กลัวๆอยู่เหมือนกัน!!!"

สำหรับวันนั้นผมจำไม่ได้จริงๆว่าพูดอะไร จำได้แต่ว่าเมื่อผมพูดจบและโจอี้ก็พูดว่า

"เฮ้ยคิว!!! กูว่ามึงน่าไปเป็นอาจารย์วะกูว่า"
(ด้วยน้ำหนักคำพูดที่ดูสนุกสนานและตามด้วยเสียงหัวเราะของมัน)

คำพูดของเขาทำให้ผมรู้สึกสะดุดและกลับมาหยุดคิดในวันท้ายๆที่ผมอยู่พะเยา ผมว่าเป็นผมต่างหากที่เป็นคนบ้านนอก!!! เป็นคนที่ไม่ค่อยรู้อะไร!!! ที่วันๆดักดานอยู่ในพื้นที่ที่ตัวเองคุ้นเคย จนไม่กล้าออกไปนอกพื้นที่ของตนเอง ด้วยคำพูดของเพื่อนนุกนิกในวันนั้นและประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มันสอนให้ผมรู้ว่า เราต้องออกไป ไม่รู้ว่าจะไปไหนแต่ก็ขอให้ออกไป อาจจะไม่ต้องไปไกลมากนัก แค่ไปให้ไกลกว่าที่เคยไปอีกนิดอาจจะเห็นอะไรที่มากกว่าที่เคยเห็น ดีไม่ดีไม่รู้ ชอบไม่ชอบไม่รู้ แต่ก็ขอออกไปให้เห็นมัน... (สิ่งที่ผมกล่าวคำว่า "ออกไป" หมายถึงบริบทของการออกไปพบเห็น ไม่ใช่การออกไปดิ้นรนหรือทำอะรไรบางอย่างเพื่อให้ได้ไปเห็นนะครับ!!!)

สุดท้ายนี้ถึงแม้ผมจะชื่นชอบและหลงเสน่ห์จังหวัดพะเยามากเพียงใดก็ตาม ในความเป็นจริงแล้วผมยังคงรักบ้านเกิดผม ยังรักพื้นเพของผม(ถึงแม้จะวุ่นวาย และแออัดเพียงไรก็ตาม) แต่แล้วผมกลับมานั่งสำรวจความรู้สึกตนเองอีกที ทำให้ผมพบว่า...

"ผมฮักพะเยา"

Q

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

แอ่วพะเยา ตอนที่ 4

วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2552
เป็นวันรองสุดท้ายก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านในวันพรุ่งนี้
เริ่มกันที่ชาวคณะได้พาไปเยี่ยมชม "มหาวิทยาลัยนเรศวรพะเยา"
ซึ่งแนนก็จบจาก ที่นี่เช่นกัน!!!

ขอบอกว่า "น่าเรียนมากกกกกกกกกก"
















ด้านหน้ามหาวิทยาลัย

ภายในมหาลัย!!!
































หอประชุมมหาลัย!!!

















โครงที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่

















รถบัสมหาลัย!!!

จากนั้นไปที่อ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำ!!!
















อ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำ!!!

















อีกฝั่งนึงของอ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำ!!!

















ป้ายโครงการ























ที่มาของโครงการ โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำเป็นหนึ่งในพระราชดำริของในหลวง

















จะบรรยายความรู้สึกยังไงดีล่ะ!!! อธิบายไม่ถูกจริงๆ เอาเป็นว่า...
"บุหรี่ที่ยืนดูดในขณะนั้นช่างเอร็ดอร่อยจริงๆ"


































กิ๊กบอกว่าเป็นกว๊านเล็ก... ผมว่าเข้าท่าดีแฮะ!!!

















จากนั้นมาชิมรสชาติ "ก๋วยเตี๋ยวอันเจริญ" ผมว่าเส้นเล็กเขาอร่อยดีนะ!!!
(แต่คนวงในบอกว่าไปกินที่ตัวเมืองจะอร่อยกว่านี้เจ้า!!!)

กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จกลับบ้านแนน และแอบดอดมาชมตัวเมืองด้วยมอไซค์พ่อแนน!!!






















สี่แยกที่เคยลงภาพไปแล้วใน "ตอนที่ 1"
เลี้ยวซ้ายไปกว๊าน
เลี้ยวขวาไปขนส่ง
มุ่งไปพบวัดศรีโคมคำ
ส่วนตัวผมตรงมาจากตัวเมืองที่เป็นตลาดกระมัง!!!

ผมเลี้ยวซ้ายไปสูดและสัมผัสบรรยากาศแหล่งชีวิตอีกที่ ก่อนที่พรุ่งนี้จะกลับบ้าน...
















ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ

















คนขายซาลาเปาที่มาหาลูกค้าแถวกว๊าน!!!

















พ่อขุนงำเมืองและผู้ที่มาสักการะ
พอดีวันนั้นมีรถทัวร์มาแวะที่กว๊านหลายคันคนเลยเยอะหน่อย!!!

















ป้ายกว๊านพะเยากลับผู้แวะมาเยือน
ถ้ามีเวลาก็พาลูกหลานมาเที่ยวที่พะเยาแบบเต็มตัวนะป้า!!!
(ชอบไม่ชอบค่อยว่ากัน)

และมานั่งพักจิบเบียร์ที่ร้าน "ศรีเรือน" เจ้า
(ถ้าวันนั้นฝนไม่ตก วันนี้ก็คงไม่ได้มานั่งที่ร้านนี้)
















ด้านขวาพี่เจ้าของร้าน ถึงหน้าจะดุไปหน่อยแต่ก็พูดจาดี ด้านซ้ายป้าที่คอยย่างปลาและคอยโบกมือเรียกลูกค้าเมื่อแกเห็นรถคันไหนที่วิ่งผ่านแล้ว กท ไม่ได้เป็นจังหวัดพะเยา!!!

กินพอกึ่มๆ หลังจากนั้นก็ร่อนมอไซค์ชมรอบตัวเมืองอีกซักพัก
















ห้องแถวเก่า!!!
















































กลับบ้านแนนอาบน้ำกินข้าวและก็มานั่งดื่มกันต่อ...
















วันนั้นเป็นคืนสุดท้ายเลยมีญาติและเพื่อนบ้านแนนมานั่งดื่มร่วมกัน!!!























ระห่างนั่งดื่มก็มีการคั่นรายการกัน ด้วยการจุดโคมลอย!!!

















อธิฐานหรือปลดปล่อยสิ่งใดไปน้า...























โคมลอยไปแล้ว... หมู่เฮาต่างพากันชื่นมื่น!!!(เป็นภาพที่น่าประทับใจจริงๆ)

















เป็นค่ำคืนที่เหมาะสมกับคืนสุดท้ายจริงๆ พูดได้คำเดียวครับ!!!
"HAPPYๆหลายๆเด้อ"
(เอ... ไหนบอกว่าพูดได้คำเดียว แต่อู่ไปหลายคำเลยเราเจ้า)

หมดวันที่ 24 ตุลา....

โปรดติดตามตอนสุดท้าย...

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2552

แอ่วพะเยา ตอนที่ 3

วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2552
เสร็จสิ้นพิธีมงคลต่างๆ วันนี้จึงเป็นวันที่เรียบๆและสบายๆวันหนึ่ง ไอ้เพชรจึงพาพวกผมไปน้ำตก(เสียดายที่วันนี้โจอี้ได้เดินทางกลับบ้านไปพร้อมกับครอบครัวของเพชร เนื่องจากติดในหน้าที่การงาน)















ทางเข้าด้านหน้า!!!








































น้ำไหลลงจากที่สูงลงที่ต่ำ แต่ชีวิตคนเรายังสูงบ้างต่ำบ้าง ขึ้นๆลงๆกันไป
ทำไมไม่ชัดเจนเหมือนเฉกเช่นสายน้ำเอย...
(ความคิดที่เกิดขึ้นในขณะนั่งชมน้ำตก)
















ทางลงน้ำตก!!!

















จากนั้นก็มาหย่อนใจกันต่อที่กว๊าน ก่อนหน้านี้ฝนตกจึงมาหลบฝนกันใต้หลังคาของป้ายสวนสมเด็จย่า ๙๐ ตามคำแนะนำของปี้อุ้ม และแกยังคงมาดูแลเราเช่นเคย!!!

















และหลังจากนั้นของจากนั้นก็มาต่อกันที่บ้านแนน!!!























ความหน้าตื่นใจในวันนั้น คือกิ๊กได้จุดพลุโอ่งหลังจากที่ซื้อมาในตัวเมือง!!!
หมดวันที่ 23 ตุลา...

โปรดติดตามตอนที่ 4

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

จุดเริ่มต้นของการพักอาศัยในอพาร์ทเมนต์

Qช่วงนี้ไม่รู้เป็นไร!!! ผมฟังเพลง "ปรากฏการณ์" ของคณะอพาร์ทเมนต์คุณป้าบ่อยเหลือเกิน!!! ทำให้จึงอยากเล่าที่มาเรื่องราวที่มีไม่มากนัก ก่อนที่ผมจะมาเป็นแฟนเพลงของวงดนตรีวงนี้(เดี๋ยวขอพักเรื่องไปเที่ยวพะเยาก่อนนะครับกลัวว่าเดี๋ยวจะเอียนกันไปก่อน ขอคั่นกลางด้วยเรื่องนี้ก่อนนะครับ!!!)

ผมได้เห็นและรู้จักวง "อพาร์ทเมนต์คุณป้า" ครั้งแรกในมิวสิควีดีโอเพลง "กำแพง"(เป็นเพลงเปิดตัวของวง) ฟังแล้วรู้ว่าเป็นเพลงที่มีความหมายดี แต่รวมๆแล้วยังไม่ได้ติดใจอะไร และเมื่อปีที่ผ่านมาผมโดนเพื่อนร่วมงานที่ชื่อ "โน" เปิดเพลง "ลิปสติกบนลิปสติก" ของอพาร์ทเมนต์คุณป้ากรอกหูอยู่พักใหญ่!!!(เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้มที่ 3 แต่ในช่วงที่ได้ฟังเขาตัดออกมาเป็น EP ให้ฟังก่อน) แล้วโนก็ได้ขยายความถึงที่มาของเพลงๆนี้ให้ฟัง!!!

อืม...เป็นเพลงที่ถ่ายทอดมาจากเรื่องราวส่วนตัวและก็เปรียบเปรยได้น่าฟัง!!!
(แต่ก็อย่างที่บอกมันยังไม่โดนอะ!!!)

จนในเวลาไล่เลี่ยกัน...ผมจะไปหาซื้อ CD ของวงภูมิจิตมาฟัง ไปถามหาร้านที่ควรจะมีมาสองร้านต่างบอกว่าหมด!!! ด้วยความตั้งใจที่จะมาหาอะไรฟัง หรือกลับไปบ้านน่าจะมีอะไรติดมือไปหน่อย วงอพาร์ทเมนต์คุณป้าก็แวปเข้ามาในหัวผม

"เอาวะ...ซื้อๆไปเหอะเดี๋ยวต้องมีโดนบ้างและ"
(ขณะที่ซีดีอัลบั้มชุดที่สอง "Romantic Comedy" กำลังอยู่ในมือผม)

สุดท้ายผมก็ได้ตัดสินใจซื้อมา!!!
เปิดฟังแล้วก็เพลินดี...แต่ก็ยังไม่ถึงเส้นของอารมณ์ร่วมซักเท่าไร!!!

เวลาผ่านไปเมื่อเข้าเดือนสิงหาเป็นช่วงที่อพาร์ทเมนต์คุณป้ากำลังโปรโมทอัลบั้มชุดที่ 3 ในชื่อชุด "สมรสและภาระ" พอดีและก็ได้ฟังเพลง "เป็นไปได้ไง" เพลงแรกที่มาเปิดตัวในอัลบั้มนี้

"ฝันว่าตัวเองเป็นนายก เออ...ฟังแล้วก็เพี้ยนดีแหะ"(เป็นเพลงที่เสียดสีการเมืองในขณะนั้น หรือว่าสมานฉันท์ดี)

และก็ตามมาติดๆด้วยเพลงที่ 2 และเป็นเพลงๆนี้เองที่เป็นเพลงจุดประกายให้ผมได้เข้าใจเนื้อหาของเพลงและอินไปกับดนตรีของอพาร์ทเมนต์คุณป้าในเพลงอื่นๆ(คือง่ายๆ...มันฟังแล้วมันเริ่มเข้าเส้นและ!!!)
อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นเพลงนี้มีชื่อเพลงว่า "ปรากฏการณ์" ไปลองฟังเพลงนี้กันก่อนนะครับ



ด้วยเนื้อหาของเพลงที่ไม่ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความหลัง
แต่กลับมาทำความเข้าใจและแปรเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ
มาเป็นข้อคิดในการดำเนินชีวิตต่อไป...
(บวกกับดนตรีและเสียงสไลด์กีตาร์ที่บดขยี้อารมณ์!!!)

ไม่ว่าจะเป็นคนที่เคยมีประสบการณ์ หรือยังไม่เคยผ่านเรื่องราววังวนนี้มาก่อน
ผมเชื่อว่าใครก็ตามที่ได้ฟังต้องเกิดอาการสะอึกและซาบซึ้งไปกับบทเพลงนี้
ไม่มากก็น้อยแหละครับ!!!

แด่ อพาร์ทเมนต์คุณป้า

และสำหรับทุกๆคนที่มีรอยสักภายในร่างกาย!!!
Q

วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

แอ่วพะเยา ตอนที่ 2

วันที 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ในวันนี้จะมีพิธืผูกข้อมือในตอนเช้า และพิธีแต่งงานในช่วงค่ำ
โดยครอบครัวของเพชรก็ได้เดินทางมาถึงพอดี
















ตื่นมาทำกิจวัตรประจำวันเสร็จ ยังมึนๆอยู่เลย พอลงมาก็เห็นป้าตึ๋ง(พี่สาวคนโตของแม่แนน)แกเซิ๊งแต่เช้าจนยันเสร็จพิธีเลย!!!

















เสร็จพิธีผูกข้อมือครอบครัวเพชรก็ได้มาดูสถานที่จัดพิธีแต่งงาน

ที่เห็นผมและโจอี้แบกอยู่นั้นคือ "กล่องเงิน กล่องทอง" จริงๆก็ไม่ได้หนักอะไรหรอกแต่แม่(แม่เพชร)ให้แบกก็ต้องแบกถือเป็นการถือเคล็ดและเอาฤกษ์เอาชัย ไม่รู้นะผมคิดของผมเอง!!!

















ทางเข้างาน(เมื่อวานยังโล่งๆอยู่เลย)

















ตั้งโต๊ะตั้งเก้าอี้กันแล้ว แต่ยังไม่ได้เอาผ้ามาคลุมโต๊ะ ซักประเดี๋ยวคงเริ่มทำกัน

หลังจากนั้นก็ไป "ดอยบุษราคัม"
โดย "นุกนิก" เป็นผู้นำเที่ยว(น้องชายแนน) แต้งกิ้วหลายเด้อ!!!
















แวะดูศาลากลางน้ำก่อนขึ้นไปวัดอนาลโย

















อันนี้ไม่ทราบจริงๆว่าเป็นศาลาอะไร?

















พ่อแม่เพชรและเพื่อนแม่เพชรกำลังจกราบไหว้พระพุทธรูป

















อีกด้านนึงของศาลา























พร้อมนะ!!! 1...2...3...แชะ!!!
(การถ่ายรูปบุคคลก็เหมือนกับกีฬามวยปล้ำคือนับได้แค่ถึงสาม!!!)

















แอ่งน้ำ(หลังจากที่เดินฝ่าดงหญ้ามาและคิดว่าต้องเห็นอะไรแน่ๆเลย)

วัดอนาลโย ตั้งอยู่บนดอยบุษราคัม
















ทางเข้าหน้าประตูวัด























พอผ่านประตูวัดมาก็เห็นชาวคณะกำลังให้ความสนใจสิ่งนี้กัน อันนี้ไม่ชัวร์นะครับ
เขาบอกว่าอธิฐานแล้ววางเหรียญตามปีเกิดให้ตั้งแล้วจะดี

















1...2...3...อีกและเบื่อจริงๆ

ภายในวัดอนาลโย


















































ภายในศาลาเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชองค์จำลอง

















รอยพระพุทธบาท
























































หมาวัดบนดอยนอนอาบแดด!!!







































พ่อแม่เพชรกำลังทำบุญ























ผู้ใหญ่บอกว่า "ทำอะไรให้ปิดทองหลังพระ"
แต่ครั้งนี้ผมขอ "ถ่ายรูปหลังพระไปก่อนแล้วกัน"







































ทัศนียภาพบนดอยบุษราคัม

พอได้เห็นวิวนี้แล้ว อยากดูดบุหรี่ใจจะขาด!!! บุหรี่ในกระเป๋าดันหมดเสียอีก อารมณ์เลยไม่สุดเลย!!!
(ไม่เป็นไร ถ้ามีโอกาสได้มาอีกจะพกบุหรี่มาเต็มซอง และจะนั่งดูดให้ชื่นปอดด้วยอารมณ์สุนทรีย์จากวิวทิวทัศน์ที่ได้สัมผัส!!!)


หลังจากนั้นก็ไปที่ "วัดศรีโคมคำ"
(พอดีต่างคนยังมึนและเพลียกันอยู่ เลยไม่มีใครถ่ายรูปเก็บไว้เลย!!! )
















แวะกินข้าวซอยที่ตัวเมือง(ตอนผมยืนถ่ายรูปนี้ แวปนึงของความรู้สึกนึกว่าตัวเองกำลังอยู่หัวหิน!!!)

ด้านขวาคือ "นุกนิก" (จริงๆเขาชื่อ "นิก" แต่ผมเอาชื่อนี้มาจากนักล่าฝันใน AF6 ถ้าเกิดเขาเป็นพี่แนนผมคงไม่กล้าเรียกแบบนั้นแน่ๆเลย!!!)

หลังจากนั้นก็กลับบ้านแนน พักแป๊ปนึงแล้วก็อาบน้ำแต่งตัวไปงานแต่งไอ้เพชรกัน!!!
















นั่งชมคนพะเยาออกกำลังกายและเตะบอล ระหว่างรอเวลางานแต่ง!!!

เสร็จพิธีงานแต่งก็มาต่อกันที่บ้านแนน
















ที่เห็นอยู่คือ "พี่เปี๊ยก" วันนี้พี่เขาคงดื่มหนัก แต่ผมเชื่อว่าพรุ่งนี้เช้าคงหนักไม่แพ้กัน..อิอิอิ

















เรียงจากซ้ายไปขวา : พี่ป๋อม, แฟนพี่ป๋อม, พี่อุ้ม, พี่ใน, ผม, ไอ้เพชร, พี่เก๋, กิ๊กถ่ายภาพเช่นเคย(ส่วนโจอี้ขึ้นไปนอนรักษาตัวข้างบน!!!)

พอได้ที่ของแต่ละคน ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกัน!!! หมดวันที่ 22 ตุลา...

โปรดติดตามตอนที่ 3