วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

จุดเริ่มต้นของการพักอาศัยในอพาร์ทเมนต์

Qช่วงนี้ไม่รู้เป็นไร!!! ผมฟังเพลง "ปรากฏการณ์" ของคณะอพาร์ทเมนต์คุณป้าบ่อยเหลือเกิน!!! ทำให้จึงอยากเล่าที่มาเรื่องราวที่มีไม่มากนัก ก่อนที่ผมจะมาเป็นแฟนเพลงของวงดนตรีวงนี้(เดี๋ยวขอพักเรื่องไปเที่ยวพะเยาก่อนนะครับกลัวว่าเดี๋ยวจะเอียนกันไปก่อน ขอคั่นกลางด้วยเรื่องนี้ก่อนนะครับ!!!)

ผมได้เห็นและรู้จักวง "อพาร์ทเมนต์คุณป้า" ครั้งแรกในมิวสิควีดีโอเพลง "กำแพง"(เป็นเพลงเปิดตัวของวง) ฟังแล้วรู้ว่าเป็นเพลงที่มีความหมายดี แต่รวมๆแล้วยังไม่ได้ติดใจอะไร และเมื่อปีที่ผ่านมาผมโดนเพื่อนร่วมงานที่ชื่อ "โน" เปิดเพลง "ลิปสติกบนลิปสติก" ของอพาร์ทเมนต์คุณป้ากรอกหูอยู่พักใหญ่!!!(เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้มที่ 3 แต่ในช่วงที่ได้ฟังเขาตัดออกมาเป็น EP ให้ฟังก่อน) แล้วโนก็ได้ขยายความถึงที่มาของเพลงๆนี้ให้ฟัง!!!

อืม...เป็นเพลงที่ถ่ายทอดมาจากเรื่องราวส่วนตัวและก็เปรียบเปรยได้น่าฟัง!!!
(แต่ก็อย่างที่บอกมันยังไม่โดนอะ!!!)

จนในเวลาไล่เลี่ยกัน...ผมจะไปหาซื้อ CD ของวงภูมิจิตมาฟัง ไปถามหาร้านที่ควรจะมีมาสองร้านต่างบอกว่าหมด!!! ด้วยความตั้งใจที่จะมาหาอะไรฟัง หรือกลับไปบ้านน่าจะมีอะไรติดมือไปหน่อย วงอพาร์ทเมนต์คุณป้าก็แวปเข้ามาในหัวผม

"เอาวะ...ซื้อๆไปเหอะเดี๋ยวต้องมีโดนบ้างและ"
(ขณะที่ซีดีอัลบั้มชุดที่สอง "Romantic Comedy" กำลังอยู่ในมือผม)

สุดท้ายผมก็ได้ตัดสินใจซื้อมา!!!
เปิดฟังแล้วก็เพลินดี...แต่ก็ยังไม่ถึงเส้นของอารมณ์ร่วมซักเท่าไร!!!

เวลาผ่านไปเมื่อเข้าเดือนสิงหาเป็นช่วงที่อพาร์ทเมนต์คุณป้ากำลังโปรโมทอัลบั้มชุดที่ 3 ในชื่อชุด "สมรสและภาระ" พอดีและก็ได้ฟังเพลง "เป็นไปได้ไง" เพลงแรกที่มาเปิดตัวในอัลบั้มนี้

"ฝันว่าตัวเองเป็นนายก เออ...ฟังแล้วก็เพี้ยนดีแหะ"(เป็นเพลงที่เสียดสีการเมืองในขณะนั้น หรือว่าสมานฉันท์ดี)

และก็ตามมาติดๆด้วยเพลงที่ 2 และเป็นเพลงๆนี้เองที่เป็นเพลงจุดประกายให้ผมได้เข้าใจเนื้อหาของเพลงและอินไปกับดนตรีของอพาร์ทเมนต์คุณป้าในเพลงอื่นๆ(คือง่ายๆ...มันฟังแล้วมันเริ่มเข้าเส้นและ!!!)
อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นเพลงนี้มีชื่อเพลงว่า "ปรากฏการณ์" ไปลองฟังเพลงนี้กันก่อนนะครับ



ด้วยเนื้อหาของเพลงที่ไม่ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความหลัง
แต่กลับมาทำความเข้าใจและแปรเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ
มาเป็นข้อคิดในการดำเนินชีวิตต่อไป...
(บวกกับดนตรีและเสียงสไลด์กีตาร์ที่บดขยี้อารมณ์!!!)

ไม่ว่าจะเป็นคนที่เคยมีประสบการณ์ หรือยังไม่เคยผ่านเรื่องราววังวนนี้มาก่อน
ผมเชื่อว่าใครก็ตามที่ได้ฟังต้องเกิดอาการสะอึกและซาบซึ้งไปกับบทเพลงนี้
ไม่มากก็น้อยแหละครับ!!!

แด่ อพาร์ทเมนต์คุณป้า

และสำหรับทุกๆคนที่มีรอยสักภายในร่างกาย!!!
Q

วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

แอ่วพะเยา ตอนที่ 2

วันที 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ในวันนี้จะมีพิธืผูกข้อมือในตอนเช้า และพิธีแต่งงานในช่วงค่ำ
โดยครอบครัวของเพชรก็ได้เดินทางมาถึงพอดี
















ตื่นมาทำกิจวัตรประจำวันเสร็จ ยังมึนๆอยู่เลย พอลงมาก็เห็นป้าตึ๋ง(พี่สาวคนโตของแม่แนน)แกเซิ๊งแต่เช้าจนยันเสร็จพิธีเลย!!!

















เสร็จพิธีผูกข้อมือครอบครัวเพชรก็ได้มาดูสถานที่จัดพิธีแต่งงาน

ที่เห็นผมและโจอี้แบกอยู่นั้นคือ "กล่องเงิน กล่องทอง" จริงๆก็ไม่ได้หนักอะไรหรอกแต่แม่(แม่เพชร)ให้แบกก็ต้องแบกถือเป็นการถือเคล็ดและเอาฤกษ์เอาชัย ไม่รู้นะผมคิดของผมเอง!!!

















ทางเข้างาน(เมื่อวานยังโล่งๆอยู่เลย)

















ตั้งโต๊ะตั้งเก้าอี้กันแล้ว แต่ยังไม่ได้เอาผ้ามาคลุมโต๊ะ ซักประเดี๋ยวคงเริ่มทำกัน

หลังจากนั้นก็ไป "ดอยบุษราคัม"
โดย "นุกนิก" เป็นผู้นำเที่ยว(น้องชายแนน) แต้งกิ้วหลายเด้อ!!!
















แวะดูศาลากลางน้ำก่อนขึ้นไปวัดอนาลโย

















อันนี้ไม่ทราบจริงๆว่าเป็นศาลาอะไร?

















พ่อแม่เพชรและเพื่อนแม่เพชรกำลังจกราบไหว้พระพุทธรูป

















อีกด้านนึงของศาลา























พร้อมนะ!!! 1...2...3...แชะ!!!
(การถ่ายรูปบุคคลก็เหมือนกับกีฬามวยปล้ำคือนับได้แค่ถึงสาม!!!)

















แอ่งน้ำ(หลังจากที่เดินฝ่าดงหญ้ามาและคิดว่าต้องเห็นอะไรแน่ๆเลย)

วัดอนาลโย ตั้งอยู่บนดอยบุษราคัม
















ทางเข้าหน้าประตูวัด























พอผ่านประตูวัดมาก็เห็นชาวคณะกำลังให้ความสนใจสิ่งนี้กัน อันนี้ไม่ชัวร์นะครับ
เขาบอกว่าอธิฐานแล้ววางเหรียญตามปีเกิดให้ตั้งแล้วจะดี

















1...2...3...อีกและเบื่อจริงๆ

ภายในวัดอนาลโย


















































ภายในศาลาเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชองค์จำลอง

















รอยพระพุทธบาท
























































หมาวัดบนดอยนอนอาบแดด!!!







































พ่อแม่เพชรกำลังทำบุญ























ผู้ใหญ่บอกว่า "ทำอะไรให้ปิดทองหลังพระ"
แต่ครั้งนี้ผมขอ "ถ่ายรูปหลังพระไปก่อนแล้วกัน"







































ทัศนียภาพบนดอยบุษราคัม

พอได้เห็นวิวนี้แล้ว อยากดูดบุหรี่ใจจะขาด!!! บุหรี่ในกระเป๋าดันหมดเสียอีก อารมณ์เลยไม่สุดเลย!!!
(ไม่เป็นไร ถ้ามีโอกาสได้มาอีกจะพกบุหรี่มาเต็มซอง และจะนั่งดูดให้ชื่นปอดด้วยอารมณ์สุนทรีย์จากวิวทิวทัศน์ที่ได้สัมผัส!!!)


หลังจากนั้นก็ไปที่ "วัดศรีโคมคำ"
(พอดีต่างคนยังมึนและเพลียกันอยู่ เลยไม่มีใครถ่ายรูปเก็บไว้เลย!!! )
















แวะกินข้าวซอยที่ตัวเมือง(ตอนผมยืนถ่ายรูปนี้ แวปนึงของความรู้สึกนึกว่าตัวเองกำลังอยู่หัวหิน!!!)

ด้านขวาคือ "นุกนิก" (จริงๆเขาชื่อ "นิก" แต่ผมเอาชื่อนี้มาจากนักล่าฝันใน AF6 ถ้าเกิดเขาเป็นพี่แนนผมคงไม่กล้าเรียกแบบนั้นแน่ๆเลย!!!)

หลังจากนั้นก็กลับบ้านแนน พักแป๊ปนึงแล้วก็อาบน้ำแต่งตัวไปงานแต่งไอ้เพชรกัน!!!
















นั่งชมคนพะเยาออกกำลังกายและเตะบอล ระหว่างรอเวลางานแต่ง!!!

เสร็จพิธีงานแต่งก็มาต่อกันที่บ้านแนน
















ที่เห็นอยู่คือ "พี่เปี๊ยก" วันนี้พี่เขาคงดื่มหนัก แต่ผมเชื่อว่าพรุ่งนี้เช้าคงหนักไม่แพ้กัน..อิอิอิ

















เรียงจากซ้ายไปขวา : พี่ป๋อม, แฟนพี่ป๋อม, พี่อุ้ม, พี่ใน, ผม, ไอ้เพชร, พี่เก๋, กิ๊กถ่ายภาพเช่นเคย(ส่วนโจอี้ขึ้นไปนอนรักษาตัวข้างบน!!!)

พอได้ที่ของแต่ละคน ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกัน!!! หมดวันที่ 22 ตุลา...

โปรดติดตามตอนที่ 3

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

แอ่วพะเยา ตอนที่1

Qในช่วงปลายเดือนสิงหาที่ผ่านมา ผมได้ตัดสินใจที่จะลาออกจากงาน จึงทำให้เดือนกันยาเป็นเดือนสุดท้ายของการทำงานของผม และในช่วงเข้าปลายเดือนนี้เอง เพื่อนผมที่ชื่อ "ไอ้เพชร" (เป็นเพื่อนที่คบหากันมาตั้งแต่มัธยมปลาย) ได้โทรศัพท์มาส่งข่าวว่ามันจะแต่งงานในปลายเดือนตุลาคมนี้ โดยที่ว่าที่เจ้าสาวของไอ้เพชรนั้นเป็นคนพะเยา เธอชื่อ "แนน" โดยจะจัดงานแต่งที่พะเยาในวันที่ 22 ตุลาก่อน แล้วลงมาแต่งที่กรุงเทพฯในวันที่ 29 ตุลา และมันก็ได้ชักชวนผมให้ไปกับมันในงานแต่งที่พะเยากับเพื่อนที่ชื่อ "กิ๊ก" และ "โจอี้" อีกสองคน ถึงตอนนั้นผมก็เป็นคนว่างงานแล้วนี่จะตอบปฏิเสธได้อย่างไร...

"เออ...กูไป" (จังหวะช่างพอเหมาะพอดีจริงๆ)

ผมจึงอยากถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆผ่านภาพถ่ายตลอดระยะเวลา 6 วัน(20-25 ตุลา) ที่ผมได้ไปสัมผ้สและซึมซับเสน่ห์ของจังหวัดพะเยาในครั้งนี้!!!

ขอขยายความนิดนึงว่าผมไม่มีข้อมูลหรือความรู้เกี่ยวกับจังหวัดนี่เลย แม้กระทั่งตอนระหว่างเดินทางไป กิ๊กได้เปิดแผนที่ถนนทางหลวงดูยังตกใจเลยว่า

"เฮ้ย...พะเยานี่อยู่เหนือเชียงใหม่อีกเหรอวะ"
"ตายๆ...ผ่าน ส.ป.ช. มาได้ไงวะกู"

ผมก็ได้แต่นั่งอมยิ้มและคิดในใจว่า

"กูก็เข้าใจผิดเหมือนมึงเลยวะ"

แค่ที่ตั้งจังหวัดยังไม่รู้เลย...แต่พอไปถึงแทบลืมบ้านเกิดเลยเรา!!!

ก่อนจะไปชมภาพมารู้จักคำขวัญประจำจังหวัดกันก่อนดีกว่า...

"กว๊านพะเยาแหล่งชีวิต
ศักดิ์สิทธิ์พระเจ้าตนหลวง
บวงสรวงพ่อขุนงำเมือง
งามลือเลื่องดอนบุษราคัม"


(เป็นภาพถ่ายของกิ๊กและผมผสมกัน)

วันที่ 20 ตุลาคม 2552
ไปถึงพะเยาที่บ้านแนนตอนค่ำ พวกญาติๆเพื่อนบ้านของแนนมากันเต็มเลยและกำลังนั่งดื่มกันอยู่ด้วย เรียบร้อยโรงเรียนครับ...กระปงกระเป๋าก็ยังไว้วางที่นอนก็ยังไม่เห็น เมาครับท่าน!!!

















โต๊ะที่ผมนั่งดื่ม แต่ยังมีอีก 2-3 โต๊ะนะครับ!!! หมดวันที่ 20 ตุลา...

วันที 21 ตุลาคม 2552
















พิธีผูกข้อมือที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้























ที่ใส่เสื้อขาวมีลายเป็นคุณแม่ของแนน

















ญาติๆและหลานๆของแนน

โรงเรียนพะเยาพิทยาคม























































พวกพี่ๆป้าๆกำลังจัดแต่งดอกไม้เตรียมพร้อมกับงานในวันพรุ่งนี้























รูปคู่หน้างาน(แต่วันนี้เป็นรูปคู่ที่วางอยู่ตรงพนักพิงไปก่อนแล้วกัน)

















หอประชุมโรงเรียน(สถานที่จัดงาน)

















ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าบ่าวกำลังดูภาพสไลด์งานแต่ง

















สี่แยกในตัวเมืองพะเยา

หลังจากนั้นก็มาต่อที่แหล่งชีวิต "กว๊านพะเยา"

































ที่เห็นขาวๆไกลๆนั้นเป็นวัดติโลกอาราม ตั้งอยู่กลางกว๊านพะเยา








































ส่วนตัวผมมีความผูกพันกับแม่น้ำพอสมควร คือเห็นแม่น้ำแล้วมีความสุข(ขอยืมหน่อยนะครับคุณอามาโนช) พอได้มาเห็นผืนน้ำที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ ก็ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกเป็นถ้อยคำของภาษายังไงดี...

















sign น่ารักดี!!! ถึงแม้ตัวหนังสือจะถูกบีบจนดูไม่น่ามองก็ตาม ด้านไกลนั้นกิ๊กกับโจอี้กำลังนั่งจิบเบียร์กันอยู่

















พอดีฝนตก...เลยมาหลบฝนและนั่งจิบเบียร์กันต่อที่ร้าน "ศรีเรือนเจ้า"

ระหว่างที่นั่งร้านนี้อยู่เพชรกับแนนก็ขับมอไซต์ผ่านมาพอดี!!! และบอกว่าวันนี้มีไทยเข็มแข็งที่นี้ ตรงสวนสมเด็จย่า 90 ซึ่งเลยจากจุดที่ผมนั่งอยู่ไปซัก 500 เมตรได้กระมัง แต่สุดท้ายแล้วก็ได้ดูผ่านจอโทรทัศน์ของทางร้านศรีเรือน

















ล็อตตารี่ใบแรกที่ผมซื้อ!!!

















กับคุณลุงท่านนี้!!! (ใครมาเที่ยวกว๊านแล้วเจอแก่ ก็ช่วยอุดหนุนกันหน่อยนะครับ)

















โฮมเสตย์ริมกว๊าน

















ร้านศรีเรือนในยามค่ำ

หลังจากนนั่นก็กลับไปบ้านแนน พอตกดึกอีกหน่อยก็ออกมากินกันที่ "ร้าน Rage View" แถวๆกว๊านหลังจากที่ได้เล็งกันในเมื่อแลง(เมื่อเย็น) และไปต่อกันอีกร้านนึง

















อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง ตั้งอยู่ตรงสวนสมเด็จย่า 90 หน้ากว๊านพะเยา
(ระหว่างที่จะเดินทางไปต่ออีกร้านนึง)























สักการะพ่อขุนงำเมือง























ปล่อยโคมลอยกัน ตรงหน้าอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง

ด้านซ้ายคือ ปี้อุ้ม(เป็นลูกพี่ลูกน้องกับแนน) ขอบคุณครับปี้!!!
กับการดูแลต้อนรับผมและเพือนๆเป็นอย่างดี
ตรงกลางโจอี้ ด้านขวาผมเอง ส่วนกิ๊กถ่ายภาพ!!!


















มาต่อกันที่ร้าน "Country Place" คงไม่ต้องบอกนะครับว่าเล่นแนวไหน?

พอกินกันได้ที่แล้วก็กลับกัน!!! หมดวันที่ 21 ตุลา...

โปรดติดตามตอนที่ 2